“ระบบเบรก” เป็นอีกระบบหนึ่งของรถยนต์ที่มีความสำคัญมาก ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา วันนี้ ที อาร์ ดับบลิว มีวิธีตรวจสอบหากรถของคุณมีอาการเบรกดังเกิดขึ้น จุดไหนบ้างที่ควรตรวจสอบไปดูกันครับ
.

ให้ตรวจสอบผ้าเบรก

ผิวหน้าผ้าเบรกเป็นมันเงา เหมือนกระจก เกิดจากความร้อนจัดทำให้ ผิวหน้าผ้าเบรกแข็งตัว

มีเศษหิน ทราย กระเด็นเข้าไปติดระหว่างผ้ากับจานเบรก

มีการสึกที่ไม่เสมอกัน อาจมีความผิดปกติที่คลิปผ้าเบรกหรือลูกสูบ มีการขัดตัวจากสิ่งสกปรก จากจานเบรกไม่เรียบ หรือคาลิปเปอร์เบรกทำงานไม่สมบูรณ์ ติดตั้งไม่ถูกต้อง
.

เช็คแผ่นรองหลังผ้าเบรกหรือแผ่นกันเสียง(shim) และจาระบี

ไม่มีแผ่นกันเสียง หรือ Shim
หากแผ่นกันเสียงชำรุดหรือลืมใส่ด้านหลังของผ้าเบรก จะทำให้ผ้าเบรกเกิดการเคลื่อนไหวได้ไม่ดีหรือหลวมเกินไปทำให้เกิดเสียงรบกวนได้เมื่อหยุดรถ สร้างทั้งปัญหาเรื่องเสียงและประสิทธิภาพการเบรก

แผ่นกันเสียงบิดผิดรูป

ส่วนที่เคลือบและยางเสื่อมสภาพ แข็งตัวและหลุดออกเมื่อถูกความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยางในบริเวณที่ถูกลูกสูบกดทับ

เขี้ยวซึ่งอยู่ที่ผ้าเบรก เกิดบิดผิดรูป จะทำให้แผ่นกันเสียงไม่อยู่ในสภาพที่เหมาะสม

ด้านหลังผ้าเบรกทาจาระบีไว้อย่างพอเหมาะ หรือไม่
วิธีแก้ไข เปลี่ยนผ้าเบรกชุดใหม่ ตรวจสภาพจานเบรกและคาลิปเปอร์ เช็คการเคลื่อนไหวของคาลิปเปอร์ หากเคลื่อนตัวไม่ดีควรทำความสะอาด และทาจาระบีให้เหมาะสม
.

ตรวจสอบผิวหน้าของจานเบรก

ผิวหน้าเกิดรอยไหม้ เปลี่ยนสีออกเป็นสีดำ และเป็นมันเงาหรือไม่

จานเบรกบางเกินค่าที่กำหนด

ผิวจานเบรก มีรอยลึก

สีจานเบรกเปลี่ยนไป เป็นสีออกฟ้า เกิดจากจานไหม้ จากการเบรกกะทันหันอย่างรุนแรง

พื้นผิวจานไม่เรียบ ทำให้เกิดการสั่นทุกๆครั้งที่ผ้าเบรกสัมผัสกับจานจะก่อให้เกิดเสียงรบกวนได้

นอกจากนี้ยังทำให้พื้นที่สัมผัสของผ้าเบรกและจานเบรกลดลง ส่งผลให้ ประสิทธิภาพการเบรกลดลงด้วย วิธีแก้ไข ควรเจียรจานเบรกให้เรียบสม่ำเสมอ แต่ถ้าเป็น จานบางหรือเป็นรอยมากให้เปลี่ยนใหม่ครับ
.
ทางที่ดีคือนำรถเข้าไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจเช็คทั้งระบบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผูร่วมทางครับ
Cr. ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก TRW Thailand